โรคท้องร่วงในเด็ก โรคที่พ่อแม่ต้องระวัง เพราะเชื้อโรคอยู่ไม่ไกลตัว !

หนึ่งในความเจ็บป่วยที่สามารถเกิดได้กับทุกช่วงวัย นั่นก็คืออาการของ โรคท้องร่วง ที่เป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิต ลำดับต้น ๆ ของประเทศไทย สำ 

 803 views

หนึ่งในความเจ็บป่วยที่สามารถเกิดได้กับทุกช่วงวัย นั่นก็คืออาการของ โรคท้องร่วง ที่เป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิต ลำดับต้น ๆ ของประเทศไทย สำหรับ โรคท้องร่วงในเด็ก อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งไวรัส แบคทีเรีย หรือพยาธิ เป็นโรคที่พ่อแม่ควรระวังให้ดี เพราะหากรักษาไม่ทันท่วงที อาจมีอาการขาดน้ำจนช็อกได้



วันนี้ Mamastory จะพาไปรู้จักกับโรคท้องร่วงในเด็กให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้รู้ว่าอันตรายอย่างไร และพ่อแม่ควรมีวิธีป้องกัน หรือมีวิธีรับมืออย่างไร เพื่อให้ลูกปลอดภัยและไม่มีอันตราย หากพร้อมแล้ว ไปดูพร้อมกันได้เลยค่ะ !

โรคท้องร่วงในเด็ก



โรคท้องร่วงในเด็ก คืออะไร ?

โรคท้องร่วงในเด็ก เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในเด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ปี ซึ่งเป็นอาการที่เด็กถ่ายเหลว 3 ครั้ง หรือมากกว่านั้น ซึ่งอาจเกิดได้จากเชื้อไวรัส 50-60% และเชื้อแบคทีเรีย 30% หรือในบางราย อาจเกิดจากอาหารเป็นพิษก็ได้เช่นกัน

เมื่อไรที่ลูกมีอาการถ่ายเหลวหลายรอบ หรือถ่ายอุจจาระเป็นน้ำจำนวนมากกว่า 1 ครั้ง หรือถ่ายเป็นมูกเลือด ก็นับว่าเป็นอาการท้องเสีย หรือท้องร่วงได้ โดยไม่ต้องมีอาการร่วมอย่างอาเจียน หากเด็กท้องเสียแต่ไม่แน่ใจว่า มาจากสาเหตุอะไร สามารถตรวจเพิ่มเติมได้ด้วยการพาไปโรงพยาบาล เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม ก่อนที่จะเกิดเป็นภาวะอันตราย



สาเหตุของโรคท้องร่วงในเด็ก

โดยส่วนใหญ่แล้ว โรคท้องร่วงในเด็กมักเกิดจาก การทานอาหารหรือดื่มน้ำ ที่มีเชื้อโรคปนเข้าไป ซึ่งการปนเปื้อนส่วนใหญ่มักมาจาก

  • การล้างมือไม่สะอาด
  • หลังเข้าห้องน้ำ หรือก่อนกินข้าว ไม่ล้างมือ
  • เด็กชอบดูดหรืออมนิ้ว
  • เด็กชอบหยิบของตกพื้น หรือของไม่สะอาดเข้าปาก
  • รับเชื้อจากนมที่ไม่ใช้น้ำร้อนชง หรือขวดนมไม่สะอาด
  • กินอาหารค้างคืนที่แมลงวันตอม
  • น้ำดื่มไม่สะอาด ไม่ใช่น้ำกรองหรือน้ำต้มสุก
  • ทานผักหรือผลไม้ ที่ไม่ล้างให้สะอาด



โรคท้องร่วงในเด็ก



อาการที่พบได้บ่อยในโรคท้องร่วง

  1. ถ่ายหนักและถ่ายบ่อย
  2. ถ่ายเป็นมูก ถ่ายแล้วมีมูกเลือดปน
  3. ไข้สูง หรือชัก
  4. อาเจียนหลังถ่าย
  5. ท้องอืด
  6. ไม่ยอมดื่มเกลือแร่
  7. เบื่ออาหาร

บทความที่เกี่ยวข้อง : มาดู น้ำตาลในเลือดผิดปกติ ภาวะที่พบได้บ่อยในเด็กทารกแรกเกิด



หากอาการรุนแรงกว่าข้างต้นที่กล่าวมา อาทิเช่น ให้เด็กดื่มน้ำชงเกลือแร่แล้ว แต่เด็กยังมีอาการอ่อนเพลีย หรือมีอาการซึม และยังถ่ายบ่อยเป็นน้ำ ที่มากกว่า 10 ครั้งต่อวัน เป็นอาการที่น่าห่วง ควรพาลูกไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง เพราะอาจต้องกินยาเพิ่ม นอกจากการดื่มเกลือแร่ เพื่อทดแทนการเสียน้ำ



อาหารที่ควรให้ทานระหว่างท้องเสีย

สำหรับเด็กที่ท้องร่วงแต่ยังดื่มนม ควรให้ลูกดื่มนมบ่อยกว่าปกติ ทั้งนมแม่และนมชง หากเด็กโตกว่านั้นและสามารถดื่มน้ำชงเกลือแร่ได้ ควรให้ดื่มคู่กัน เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำ เปลี่ยนให้ทานอาหารย่อยง่ายอย่าง ข้าวต้ม หรือโจ๊ก พร้อมกับดื่มเกลือแร่จนกว่าจะหยุดถ่าย แต่ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้นใน 2-3 วัน หรือมีอาการอื่นที่เพิ่มขึ้น ควรพาลูกไปหาหมอ เพื่อรับการรักษาที่ถูกวิธี



โรคท้องร่วงในเด็ก



เด็กเล็กกินยาหยุดถ่ายได้ไหม ?

สำหรับเด็กเล็ก ที่แน่ชัดว่าเป็นโรคท้องร่วง หรือมีการท้องเสียอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรทานยาหยุดถ่าย ถึงแม้ว่าข้อดีของยาจะช่วยให้หยุดการถ่าย แต่อาการไม่ได้ถูกรักษาอย่างถูกต้อง ภายในลำไส้อาจยังมีของเสียตกค้างอยู่ อาจทำให้ท้องอื่น หรือกลายเป็นโรคแทรกซ้อนอื่น ที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กได้



โรคท้องร่วงในเด็ก



วิธีป้องกันโรคท้องร่วงในเด็ก

  1. เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะนมแม่มีภูมิคุ้มกันโรคท้องร่วง
  2. ล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง หลังการเข้าห้องน้ำ ก่อนกินข้าว และก่อนประกอบอาหาร
  3. รับประทานอาหารทำสุกใหม่ ไม่ทานอาหารค้างคืน
  4. ดื่มนมสะอาด บรรจุในขวดมิดชิด
  5. เก็บอาหารไม่ให้แมลงวันตอม ป้องกันการท้องเสียฉับพลัน
  6. กำจัดแหล่งเพาะแมลง เก็บขยะทิ้งทุกวัน



ข้อสำคัญคือนอกจากการทานอาหารปรุงสุกใหม่แล้ว การช่วยไม่ให้ลูกมีอาการท้องร่วง ด้วยการรับวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโรต้า ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ลดความเสี่ยงได้ เพื่อไม่ให้โรคหรืออาการรุนแรงเกินควบคุม นอกจากนั้นควรหมั่นสอนลูก ให้ล้างมือทุกครั้งก่อนและหลังการเข้าห้องน้ำ และหมั่นทำความสะอาดภาชนะให้ถูกวิธี เพื่อลดอัตราการเกิดโรคท้องร่วงในเด็กค่ะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

โรคเฮอร์แปงไจนา (Herpangina) โรคติดต่อเชื้อไวรัสที่ต้องระวังในเด็ก !

โนโรไวรัส (Norovirus) ระบาดหนัก ตัวการทำเด็ก ๆ ท้องเสีย !

ภาวะขาดน้ำในทารก อาการ และความเสี่ยงที่ต้องระวัง

ที่มา : 1